เกาะเกร็ดในวันน้ำท่วม 15 ตค.49
ข่าวน้ำท่วมเกาะเกร็ดทางทีวีเมื่อราวต้นเดือน ตุลาคม 2549 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในระยะแรกๆที่ระดับน้ำเริ่มสูงจนท่วมพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยาในเขตจังหวัดนนทบุรี มีผลกระทบทำให้เกาะเกร็ดมีนักท่องเที่ยวน้อยลงทันที รวมถึงกรุ๊ปทัวร์ต่างยกเลิกโปรแกรม จนชาวบ้านต้องออกมาโวยวายกับสื่อว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยวบนเกาะเกร็ด ชุมชนขาดรายได้ ทั้งๆที่เกาะเกร็ดมีน้ำท่วมกันเป็นปกติตามฤดูกาลอยู่แล้ว หลายคนอาจไม่คิดมาเที่ยวเกาะเกร็ดในช่วงเวลานี้ แต่ก็อาจมีหลายคนที่คิดสวนกระแส โดยถือโอกาสเอาเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นแรงกระตุ้นให้อยากมาเห็นในสภาพที่แตกต่างไปจากภาวะปกติ เมื่อ 4 -5 ปี ก่อนก็เคยไปเที่ยวเขื่อนป่าสักในช่วงที่มีระดับน้ำสูงสุดเท่าที่เคยมีมา หลายคนก็อยากไปเห็นว่าสภาพการณ์จะเป็นอย่างไร เห็นออกข่าวกันนักหนาว่าปลิ่มแล้ว น้ำจะล้นแล้ว ปรากฏว่าคนแห่กันไปดูมากกว่าในช่วงภาวะปกติเสียอีก แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าก็เดินทางไปเที่ยวเขื่อนพร้อมๆกับฆราวาสที่เหมารถไปดูกัน นอกจากเขื่อนป่าสักมีปัญหาแล้ว ที่อยุธยาก็มีระดับน้ำสูงจนท่วมโบราณสถานสำคัญๆอยู่หลายแห่ง ก็ต้อง ตามไปดูให้เห็นกับตาว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ขณะเดียวกันก็เช่าเรือถ่ายภาพรอบเกาะกรุงเก่าไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย เรื่องน้ำท่วมนี้ หลายคนอาจเคยเห็นภาพน้ำท่วมกรุงเทพครั้งใหญ่เมื่อปี 2485 สมัยจอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งนั้นเกิดข้าวยากหมากแพง จนรัฐบาลต้องรนณรงค์ให้ประชาชนหันมาปลูกพืชผักสวนครัวกินกันเอง โดยเฉพาะผักบุ้ง ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากเพราะปลูกง่ายและโตเร็ว ไม่นานนี้ก็มีคน Forward e-mail ส่งภาพน้ำท่วมกรุงเทพเมื่อปี '85 มาให้ดู เห็นคนกรุงเทพในยุคนั้นพายเรือเล่นที่ลานพระรูปทรงม้าและบริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกันเป็นที่สนุกสนาน ในสภาพทีน้ำสูงถึงระดับเอว 
น้ำท่วมกรุงเทพเมื่อปี 2485
เกาะเกร็ดที่มาถ่ายภาพคราวนี้ ได้เช่าเรือแถวๆหลังวัดปรมัยยิกาวาสหรือวัดชาวมอญให้พาเที่ยวรอบเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นการบริการที่ไม่ควรพลาด เพราะจะได้เห็นทัศนียภาพและบ้านเรือนรอบๆเกาะเกร็ดที่ยังดำรงชีวิตแบบดั่งเดิม สนนราคาก็ 400 บาท สำหรับเรือลำเล็กๆ เหมือนนั่งบนแผ่นไม้กระดาน และอาจดูหวาดเสียวสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่นั่งไปชมวิวไปเพลินๆ ไม่นานก็เริ่มชิน จนลืมไปว่านั่งมากับแผ่นไม้กระดานที่ติดเครื่องยนต์ สรุปแล้วปลอดภัยครับ วันนั้นคนขับเรือบอกจะไปเติมน้ำมันก่อน นึกว่าอยู่ใกล้ๆ ที่ไหนได้พาแล่นออกกลางเจ้าพระยา ไปซื้อน้ำมันฝั่งตรงข้ามเล่นเอาเสียววูบเสียววาบว่าจะลอยเท้งเต้งกลางเจ้าพระยา หากเจ้าไม้แผ่นกระดานนี้มันเกิดแฉลบพลิกคว่ำ เพราะดูท่าทางแล้วโอกาสที่จะเป็นไปได้สูงมากทีเดียว หลังจากที่นั่งทนมาได้สักพัก จนดูเหมือนว่าคนขับเรือวัยราว 20 ปี ทำท่าว่าจะขับโชว์ให้ดูเป็นขวัญตา " น้องๆ ไม่ต้องเร็วมากนะ ไปแบบปกติ เดี๋ยวน้ำกระเด็นโดนกล้อง " " ครับๆ พี่ เดี๋ยวผมข้ามไปเติมน้ำมันก่อนครับ" ก็แหม คนขับเรือยังรุ่นๆ แถมมีลูกค้าแค่คนเดียว แกก็ตัดข้ามเจ้าพระยาปานเรือเหาะ ไม่ต่างอะไรกับนั่งมอเตอร์ไซด์ซิ่ง เล่นเอาคนหนุ่มวัยใสแบบเรา หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ก็มันส์ดีเหมือนกัน ชีวิตนี้มีหวาดเสียวซะบ้างจะได้มีรสชาติ นานทีเดียวที่ไม่ได้มาเที่ยวเกาะเกร็ด แต่เท่าที่เห็นบ้านเรือนรอบเกาะดูจะไม่ต่างจากครั้งที่เคยมาเมื่อหลายปีก่อน การดำรงชีวิตแบบชาวบ้านๆ ยังมีให้เห็นอยู่ตลอดที่เรือผ่าน บ้านหลายหลังจมอยู่ใต้น้ำ ยิ่งมีเรือแล่นผ่านไปมาก็ยิ่งมีปัญหาเรื่องคลื่นกระแทกซ้ำเติมเข้าไปอีก แต่ก็มีหลายหลังที่สูงพ้นระดับน้ำ ซึ่งก็รอดตัวไป จากการที่นั่งเรือชมเกาะเกร็ดครั้งนี้ ดูชาวบ้านจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมมากนัก แต่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะถนนหนทางน้ำคงท่วมจนเดินทางกันลำบาก แต่หากเป็นสวนเป็นแปลงปลูกผักแล้วคงไม่รอดแน่ และยิ่งน้ำท่วมขังเป็นเวลานานก็เห็นทีจะเดือดร้อนเลยทีเดียว สิ่งที่ได้รับจากการออกทริปแบบเฉพาะกิจส่วนตัวครั้งนี้ ยังเห็นว่าเกาะเกร็ดมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใฝ่ฝันอยากมาเห็นหรืออยากมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบไทยๆ บนสายน้ำที่ดูสะอาดตา จนอยากมานอนเล่นที่บ้านริมน้ำนี้สักคืนสองคืนหากมีโอกาส จะได้ชมบ้านสวน หรือบ้านริมน้ำของชาวมอญกันให้ฉ่ำใจ ที่วัดมอญ(วัดปรมัยยิกาวาส) โชคดีหน่อยที่มีกำแพงล้อมรอบ แต่ก็ทำกำแพงเสริมในบางจุด และสูบน้ำออกเป็นระยะจนสามารถป้องกันได้ เรื่องนี้ก็ต้องให้เครดิตกับหน่วยทหารที่มาปักหลักป้องกันน้ำท่วมกันอย่างแข็งขัน และเป็นผู้ปิดทองหลังพระในยามน้ำท่วมกันทุกครั้ง นอกจากที่วัดนี้แล้ว ก็ยังไปช่วยเหลือให้กับวัดอื่นๆอีกหลายแห่ง จนเป็นภาพที่ชินตาไปแล้วว่าที่ใดเดือดร้อนเรื่องน้ำท่วมที่นั่นจะมีทหารไปให้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ก็อยากกล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า เป็นสิ่งที่น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่ง หลังน้ำลดก็เข้าใจว่าคงมีนักท่องเที่ยวมาอุดหนุนที่เกาะเกร็ดกันเหมือนเดิม มาชมวัดชาวมอญที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพิพิธภัณฑ์ของโบราณให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ศึกษา มีสินค้าที่เป็นของดั่งเดิมเช่นเครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายวิจิตรสวยงาม และสิ่งที่หลายคนนึกถึง หากมาเที่ยวเกาะเกร็ด ก็คือขนมไทยๆ ที่มีหลายแห่งให้เลือกชิม เป็นร้านเก่าของแก่ที่ทำกันมาเป็นสิบๆปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่สนใจ บางแห่งก็สาธิตวิธีการทำขนมให้ดู หรือบางแห่งก็ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูกรรมวิธีในการทำขนมกันชนิดถึงก้นครัวเลยทีเดียว ใครมาถึงร้านแล้วไม่ได้ลิ้มลองก็เห็นทีจะใจแข็งสักหน่อย เพราะกลิ่นขนมนมเนย ตลบอบอวลจนยากจะยั้งใจไหว 1 วัน สำหรับการเที่ยวเกาะเกร็ด รับรองว่าได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่ ทั้งอิ่มท้อง อิ่มตา และอิ่มใจ ท้ายที่สุดก็อยากบอกฝากให้กับทางวัด หรือผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ว่า ภายในวัดมีสิ่งดูรกตาอยู่มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของวัดดูจะมีสิ่งของระเกะระกะ กองไม้ กองวัสดุเหลือใช้อยู่เกือบทุกที่ ยิงเดินไปด้านหลังพิพิธภัณฑ์เพื่อทะลุออกด้านหลัง ก็ยิ่งเห็นกองใหญ่ชัดเจนและดูเหมือนจะอยู่ใกล้กับกุฎิพระด้วย หากสิ่งเหล่านี้ได้รับการแก้ไขก็คิดว่าจะเป็นภาพที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง สมกับเป็นวัดประวัติศาสตร์ของชาวมอญที่เข้ามาตั้งรกรากในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนร้านอาหารภายในวัด แม้วันนั้นจะหยุดขายกันทุกร้าน แต่หากเป็นวันปกติที่เปิดขายก็อาจเห็นภาพที่ดูไม่เป็นระเบียบ เพราะสภาพของร้านค้าที่กระจัดกระจายภายในวัด เหมือนขาดการจัดระบบระเบียบให้เป็นเรื่องเป็นราว และที่สำคัญก็อยู่ใกล้กับเจดีย์ทรงมอญที่บางแห่งบอกว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ด้วย อีกอย่างหนึ่งที่รู้สึกไม่ค่อยดีนัก ก็คือที่วัดนี้เต็มไปด้วยหมาและแมว วันนั้นก็ได้เห็นมีคนเอาอาหารมาให้หมากันที่ศาลาท่าน้ำ ที่เปรียบเหมือนประตูหน้าบ้านของเกาะเกร็ด ทำให้สกปรกเลอะเทอะตามบริเวณ และที่สำคัญรอบบริเวณวัดก็เต็มไปด้วยขี้หมาขี้แมว เดินไปก็ต้องระวังว่าจะโดนกับระเบิดที่หยอดไว้ตามจุดต่างๆ ก็บอกกล่าวกันไว้ว่า วัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพแวดล้อมภายในวัดให้มาก ให้เป็นสถานท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้มาเยือนและควรจะเป็นวัดตัวอย่างกับวัดอื่นๆด้วยในฐานะที่มีพระประจำจังหวัดนนทบุรีประดิษฐาน ที่ถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองนนท์
เว็บมาสเตอร์
โฟโต้ออนทัวร์
26 พฤศจิกายน 2549
(ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล)
แผนที่เกาะเกร็ด
การเดินทางสู่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
 
|