วัดพระธาตุจอมปิง
15 เมษายน 2548
จากวัดเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันมากนัก แต่เมื่อปรากฏข่าวเงาสะท้อนพระธาตุในพระอุโบสถหลังเก่า ก็กลายเป็นวัดที่มีผู้คนแวะ เวียนกันมาชมภาพมหัศจรรย์กันอย่างต่อเนื่อง เป็น unseen แห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง ที่นักท่องเที่ยวหลายคนเคยไปเห็นและ ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ปัจจุบันยังเป็นที่กล่าวขาน หลายคนที่ไม่เคยมาเห็นก็อยากเดินทางมาชมด้วยตาตนเอง เพราะถือว่าภาพ เงาสะท้อนพระธาตุเจดีย์ที่นี่มีความสวยงามและชัดเจนกว่าทุกแห่งที่เคยมีมา วัดพระธาตุจอมปิง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดจอมปิง ตั้งอยู่ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เป็นตำบลนาแก้วทางฝั่งทิศ ตะวันตก ส่วนตำบลนาแก้วด้านทิศตะวันออกจะอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ มีสะพานเล็กๆเชื่อมตำบลทั้งสองให้ไปมาสู่กันได้ แต่เดิมที่ยัง ไม่มีการสร้างสะพาน เมื่อถึงฤดูน้ำแห้ง ชาวบ้านจะร่วมกันสร้างสะพานไม้ไผ่ชั่วคราวเพื่อให้เดินข้ามไปมาได้ ก่อนหน้านั้นวัดพระธาตุจอมปิง ถือว่าเป็นวัดเล็กๆในชนบท เรียกว่าเป็นวัดประจำตำบล ไม่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ก็เป็นวัดเก่าแก่และสร้างมานานกว่าวัดในตำบลเดียวกัน มีพระธาตุเจดีย์สูง 17 วา เป็นจุดเด่นและเป็นที่สักการะของชุมชนจาก ตำบลนาแก้วทั้งสองฝั่งแม่วัง และเป็นที่ศรัทธาจากหมู่บ้านตำบลอื่นในอำเภอเดียวกัน จากข่าวที่ปรากฏเงาพระธาตุเจดีย์บนหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อหลายปีก่อน กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาชมภาพมหัศจรรย์ หรือภาพ unseen จนวัดจอมปิงกลายจุดสนใจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง โดยเฉพาะสำหรับ นักท่องเที่ยวประเภทนิยมทัวร์วัด ซึ่งแต่ก่อนเมื่อใครมาเที่ยวลำปางก็มักจะมานมัสการแต่พระธาตุลำปางหลวง จากนั้นก็จะเดินทาง ต่อไปยังอื่น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวหรือบรรดากรุ๊ปทัวร์มักจะเริ่มต้นจากวัดพระธาตุจอมปิงเป็นแห่งแรก จากนั้นก็เดินทางต่อที่วัด ไหล่หิน และสุดท้ายมาที่วัดเพระธาตุลำปางหลวง วัดทั้งสามแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญของจังหวัดและของภาคเหนือ คุณลุงซึ่งเป็นผู้อธิบายปรากฏการณ์ เงาพระธาตุ ในพระอุโบสถ์ว่า เงาสะท้อนพระธาตุเจดีย์นี้มีมานานแล้วแต่ไม่มีใครสังเกตุเห็น ชาวบ้านที่มาทำบุญหรือมาฟังธรรมในวันสำคัญทางศาสนาตอน กลางคืน หรือวันขึ้น 15 ค่ำทีมีพระจันทร์เต็มดวง จะปรากฏเงาพระธาตุทอดเป็นแนวยาวขึ้นบนพื้นปูนภายในโบสถ์หลังเก่า ครั้ง แรกก็ไม่มีใครรู้เพราะเป็นภาพที่เลือนลางไม่ชัดเจนและรูปทรงพระเจดีย์ก็เหมือนภาพถูกยืดให้ยาวขึ้น เมื่อหลายคนช่วยกันดู จึงรู้ว่า เป็นเงาสะท้อนของพระธาตุฯที่ผ่านช่องรูเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อยของบานหน้าต่างที่ปิดไว้ จากนั้นก็บอกต่อให้ชาวบ้านคนอื่นๆได้รู้ จนปรากฏเป็นข่าวไปทั่วประเทศ นอกจากจะปรากฏเงาพระธาตุในวันที่เห็นพระจันทร์แล้ว วันปกติช่วงประมาณบ่ายสามโมงโดยประมาณก็จะเห็นเป็นภาพพระธาตุ ที่ชัดเจนเช่นกัน จนทางวัดต้องทำผ้าใบสีขาวขึงกับโครงไม่สีเหลี่ยม เพื่อมารับแสงเงาพระธาตุ ทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น และ เห็นเป็นภาพหลายรูปแบบ ตามแต่จะขยับโครงผ้าสีขาว ทุกวันนี้ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมกันอย่างไม่ขาดสาย จนทางวัดต้องจัดให้เข้าชมกันเป็นชุดๆ เมื่อเข้าไปแล้วก็ จะปิดประตูพระอุโบสถให้มืดสนิท จากนั้นให้หลับตาสักพักเพื่อปรับสภาพของสายตา ก็จะเห็นเงาพระธาตุตามที่คุณลุงได้แสดงให้ ชมบนผืนผ้าใบ หากเอาแผ่นผ้าสีขาวนี้ออก ก็จะเห็นเงาพระธาตุปรากฏบนพื้นปูนตามที่ปรากฏเป็นข่าวและเป็นภาพที่ชาวบ้านเห็นกันครั้งแรก นับว่าเป็นเรื่องน่าแปลกและค่อนข้างลงตัวพอดีที่สามารถเห็นได้ภายในโบสถ์เก่าแก่แบบล้านนาที่มีอายุหลายร้อยปี ปรากฏการณ์ที่เห็นนี้เป็นเรื่องพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ หรือเรื่องภาพหัวกลับจากกล่องรูเข็มอันเป็นต้นกำเนิดของการสร้างกล้องถ่ายภาพ ไม่ได้เป็นเรื่องปาฏิหาริย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด ถือเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า แต่ไม่ว่าจะคิดกันอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเที่ยววัด ทำให้วัดพระธาตุจอมปิงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและรู้จักกันทั้งประเทศ วัดพระธาตุจอมปิงเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของดินแดนล้านนา ตามประวัติสันนิษฐานว่าสร้างใน พ.ศ. 2050 หรือเมื่อ 500 ปีก่อน สมัย พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ เดิมวัดนี้มีชื่อว่าวัดจอมปิง ต่อมาได้สร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นมา จึงเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุ จอมปิง ส่วนชาวบ้านจะเรียกสั้นๆตามชื่อเดิมว่า วัดจอมปิง ท่านใดที่ต้องการมาชมภาพเงาพระธาตุ แนะนำให้มาในช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงเป็นต้นไป หรือเวลาที่แสงอาทิตย์จับต้ององค์พระธาตุเจดีย์จนเห็นประกายสีทองสุกใส (เหมือนกับภาพที่เห็นในชุดนี้) หากมาชมในช่วงเวลาอื่นอาจเห็นไม่ชัดเจนนัก การเดินทางมาวัดพระธาตุจอมปิงที่อำเภอเกาะคานั้นไม่ยากนัก เพราะอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับวัดพระธาตุลำปางหลวง หรือวัด ประจำจังหวัดลำปางที่หลายคนรู้จัก หากตั้งหลักเดินทางจากตัวเมืองลำปาง ก็จะใช้ระยะทางประมาณ 18 กม. ถึงหน้าตลาดอำเภอ เกาะคา เลยมาอีกนิดก็ข้ามสะพานแม่น้ำวัง จากนั้นมาอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึงสามแยกตรงที่ว่าการอำเภอเกาะคา(หลังเก่า) พอ ดิบพอดี หากเลี้ยวขวาก็จะไปวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปวัดพระธาตุจอมปิง ใช้ระยะทางประมาณ 14 กม. ไป ตามถนนสายเล็กๆเลียบแม่น้ำวัง ก่อนถึงวัดพระธาตุจอมปิงสามารถสังเกตุเห็นยอดพระธาตุเจดีย์ตั้งอยู่บนเนิน มีแม่น้ำวังอยู่บริเวณ หน้าวัด และอย่าลืมนะครับ หากตั้งใจมาดูเงาพระธาตุวัดจอมปิงแล้ว ก็อย่าลืมไปเที่ยว วัดไหล่หิน และวัดพระธาตุลำปางหลวงที่อยู่ไม่ห่างกัน นัก หากมีเวลาอาจแวะ ตลาดนัดเซรามิค แถวๆวัดลำปางหลวง ซื้อถ้วยโถโอชามที่ขึ้นชื่อของลำปางในราคาโรงงานที่ถูกมากๆ เป็นของฝากที่จะอยู่กับผู้รับได้นานแสนนาน
เว็บมาสเตอร์
โฟโต้ออนทัวร์
18 กันยายน 2549
|