Middle Vietnam Part 4
ทริปเวียดนามกลาง วังไดโน๊ย หรือพระราชวังเมืองเว้ (Complex of Hue Monuments)
(เดินทางเดือนตุลาคม ปี55)
พระราชวังเมืองเว้หรือวังไดโน้ย (Hue Royal Palace or Dai Noi Palace) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2536 เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเว้ และเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิในราชวงศ์เหงียนทุกพระองค์ตลอดระยะเวลา146 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2345 จนถึง 2491
หากใครเคยอ่านประวัติศาสตร์ไทยยุคปลายกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ก็จะทราบว่าในปีพ.ศ.2321 เกิด "กบฏไตเซิน" ขึ้นในประเทศเวียดนาม เป็นการแย่งชิงราชบัลลังค์ในราชวงศ์ใตเซิ้น จนโอรสองค์ที่ 4 ของกษัตริย์เวียดนามที่มีชื่อว่า “เหงียน ฟุก อั๊ญ “ ได้หลบเข้ามาขอลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย
หลังจากนั้นอีก 4 ปี “เหงียน ฟุก อั๊ญ“ หรืออีกพระนามหนึ่งก็คือ "องค์เชียงสือ" ได้เสด็จกลับไปครองราชย์ และเอาชนะ
กบฏไตเซินได้อย่างเด็ดขาดเมื่อปีพ.ศ.2345 ซึ่งการปราบกบฏครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส
1 มิถุนายนปีเดียวกันทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสและมีพระนามใหม่ว่า “สมเด็จพระจักรพรรดิซา ล็อง” (หรือพระเจ้ายาลองตามประวัติศาสตร์ของไทย) พร้อมกับย้ายเมืองหลวงจากเมืองฮานอยมาอยู่ที่เมืองเว้ ซึ่งก็คือ "วังไดโน้ย" ในปัจจุบัน
วังไดโน้ยหรือพระราชวังเว้ สมัยแรกนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ แต่ถูกโจมตีจากกองทัพฝรั่งเศสสมัยล่าอาณานิคมจนเสียหาย หลังจากเวียดนามตกเป็นของฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่โดยจำลองมาจากวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง และพระราชวังแห่งใหม่นี้ใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิเวียดนามมาจนถึงพระองค์สุดท้าย คือ “จักรพรรดิบ่าวได๋”
พระราชวังเมืองเว้ที่เห็นในปัจจุบันจึงเท่ากับแบ่งเป็นสองยุค ยุคแรกเป็นยุคพระราชวังเดิมที่สร้างในสมัยพระเจ้ายาลอง(ซา ล็อง) ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์เหงียน(Nguyen dynasty) โดยทรงสร้างหลังขึ้นครองราชย์เมื่อปี พศ.2328 (สมัยพระพุทธยอดฟ้า)
ส่วนยุคที่สองเป็นยุคที่เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสเห็นว่าพระราชวังไดโน้ยได้รับความเสียหายจากการสู้รบ จึงสร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่ในพื้นที่เดิม แต่ขยายพื้นที่ออกไปจาก 5 ไร่ เป็น 5 ตารางกิโลเมตร (1,200ไร่)
พระราชวังไดโน้ยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน (คล้ายกับพระราชวังสวนจิตรลดา) มีกำแพงอิฐขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น กำแพงชั้นนอกมีความยาวตลอดแนว 11 กิโลเมตร หรือยาวด้านละ 2.5 กิโลเมตร สูง 6 เมตร หนา 2 เมตร มี 11 ประตู มี 24 ป้อมปราการ มีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร
พระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนมาทุกพระองค์ ตั้งแต่จักรพรรดิยาลอง องค์ที่ 1 จนถึงจักรพรรดิเบ่าได๋ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้าย หรือองค์ที่ 13 ที่ทรงสละอำนาจให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโงดินห์เดียม เมื่อปี พ.ศ. 2488 (สมัยรัชกาลที่ 8 ของราชวงศ์จักรี)
วังไดโน้ยหรือพระราชวังเมืองเว้ ได้รับความเสียหายมาหลายครั้งเช่น ถูกทำลายจากสมัยสงครามฝรั่งเศส ถูกปลวกกิน ถูกไฟใหม้ ถูกพายุ และถูกทำลายจากสงครามเวียดนาม
ในช่วงสงครามเวียดนาม ระบอบกษัตริย์ถูกยกเลิก จักรพรรดิ์บ่าวได๋เสด็จลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส ทำให้พระราชวังถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน จนชาวบ้านเข้าไปทำนา เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากมีพิ้นที่ถึง 1200 ไร่
หลังจากเวียดนามเปลี่ยนการปกครองแบบคอมมิวนิสต์มาเป็นประชาธิปไตย(ในนามของพรรคคอมมิวนิสต์) พร้อมกับเปิดประเทศเพื่อทำมาค้าขายเช่นเดียวกับประเทศจีนในสมัยอดีตนายก เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นผู้นำ ประเทศเวียดนามจึงได้พัฒนามาตามลำดับ
ต่อมาองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้พระราชวังเมืองเว้ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2536 (ส่วนอ่าวฮาลองเบย์ และเมืองเก่าฮอยอันได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกในอีก 6 ปีต่อมา)
ในสมัยที่เวียดนามปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ระบอบกษัตริย์ถูกทำลาย พระราชเมืองเว้ไม่มีใครสนใจ เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามในขณะนั้นถือว่า "พระราชวังแห่งนี้เป็นตัวแทนของระบอบศักดินา" จึงถูกปล่อยทิ้งร้างไปพร้อมๆกับสถานที่สำคัญๆอีกหลายแห่งที่เป็นของจักรพรรดิ
การที่รัฐบาลได้บูรณะพระราชวังและสถานที่สำคัญของจักพรรดิขึ้นมาใหม่ ก็ด้วยเหตุผลเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้บูรณะเพื่อยกย่องเชิดชูสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด
ในสมัยที่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส คนเวียดนามมีความรู้สึกเกลียดชังจักรพรรดิของตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน คอยแต่จะเอาใจฝรั่งเศสเพื่อรักษาสถานภาพของตนเอง
จักรพรรดิบางองค์ถูกชาวเวียดนามขับไล่ออกนอกประเทศ และลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส
................................................................................................................................................
รายชื่อมรดกโลกของเวียดนาม/ปีที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก(จำนวน 8 แห่ง)
ด้านวัฒนธรรม Cultural (5)
1 พระราชวังเว้ เมืองเว้ Complex of Hué Monuments (1993/2536)
2 เมืองเก่าฮอยอัน เมืองฮอยอัน Hoi An Ancient Town (1999/2542)
3 ปราสาท หมีซัน (ศูนย์กลางอาณาจักรจาม) เมืองกวางนัม My Son Sanctuary (1999/2542)
4 ป้อมปราการจักรพรรดิแห่งทังลอง เมืองฮานอย Central Sector of the Imperial Citadel of Thang Long - Hanoi (2010/2553)
5 อนุสาวรีย์โฮจิมินห์ เมืองฮานอย Citadel of the Ho Dynasty (2011/2554)
ด้านธรรมชาติ Natural (2)
1 อช.อ่าวฮาลองเบย์ กว่างนิงห์ (Quang Ninh) Ha Long Bay (1994/2537)
2 อช.ถ้าฟองญา แกบ่าง จ.กวางบิ่ญห์ Phong Nha-Ke Bang National Park (2003/2546)
แบบผสม Mixed (1)
ทิวทัศน์จางอาน เมืองนิญบิ่ญ Trang An Landscape Complex (2014/2557)
โฟโต้ออนทัวร์
26 ธันวาคม 2558
ราชวงศ์เหงียน เวียดนาม เปรียบเทียบกับราชวงศ์จักรีของไทย เพื่อให้เห็นว่าจักรพรรดิ์หรือกษัตริย์เวียดนามแต่ละพระองค์ตรงกับรัชกาลใด
ราชวงศ์เหงียน(เวียดนาม) พ.ศ 2345-2491 (146 ปี) |
ราชวงศ์จักรี (พ.ศ. 2325 - 2558 ) 233 ปี |
|
|
จักรพรรดิ |
พ.ศ. |
ตรงกับราชวงศ์จักรี |
|
1 |
Gia long |
ยา ลอง |
2345-2363 |
ร.1 / ร.2 |
|
2 |
Minh Mang |
มิน มาง |
2363-2386 |
ร.2 / ร.3 |
|
3 |
Thieu tri imperial |
เทียว ตรี |
2384-2390 |
ร.3 |
|
4 |
Vua Tu Duc |
ตือ ตึ๊ก |
2390-2426 |
ร.3 / ร.4 / ร.5 |
|
5 |
An lang |
ด่ง ดึ๊ก |
2426-2426 |
ร.5 |
|
6 |
Early Nguyen Dynasty |
เหียป หัว |
2426-2426 |
ร.5 |
|
7 |
Early Nguyen Dynasty |
เกี้ยน ฟุก |
2426-2427 |
ร.5 |
|
8 |
Vua Ham Nghi |
ห่าม งี |
2427-2428 |
ร.5 |
|
9 |
DongKhanh |
ดง คานห์ |
2428-2432 |
ร.5 |
|
10 |
Vua Thanh Thai |
ถั่นห์ ไท่ห์ |
2432-2452 |
ร.5 |
|
11 |
Vua Duy Tan nho |
ดุย ทัน |
2450-2459 |
ร.5 / ร.6 / ร.7 |
|
12 |
Roi-Khai-Dinh |
ขาย ดิ่ญ |
2459-2468 |
ร.6 / ร.7 |
|
13 |
Baodai |
บ๋าว ดั่ย |
2468-2491 |
ร.6 / ร.7 / ร.8 / ร.9 |
|
|
|
โฟโต้ออนทัวร์
30 กันยายน 2558
ชมภาพการเดินทางสู่เวียดนามกลาง
ครั้งที่ 1 เมย.50 (ออกทางด่านจังหวัดมุกดาหาร)
ครั้งที่ 2 ตค.51 (ออกทางด่านจังหวัดมุกดาหาร)
ครั้งที่ 3 (ครั้งนี้) ตค.55 (ออกทางด่านจังหวัดนครพนม)
|